วันพุธที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2553

หลวงพ่อวัดบางแอก

“ หลวงพ่อวัดบางแอก“ เมืองสุพรรณบุรี คนเมืองขุนแผน

                        เชื่อกันว่าอธิฐานขอ...มักจะสมหวังดังใจนึกล่าสุด เล่นงาน “ผู้ใหญ่บ้าน “ ขี้ฉ้อ จนต้องเผ่น

“ หลวงพ่อวัดบางแอก“ อ. สามชุก จ. สุพรรณบุรีที่ได้มีการเล่าขานสืบทอดกัน มาหลายช่วงอายุคนว่า “หลวงพ่อวัดบางแอก“ แห่งนี้ ท่านมีความศักดิ์สิทธิ์มากและมามีปรากฏการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นในชาวบ้าน และคนที่เดินทางผ่านได้เห็นกันเป็นประจำ

ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นที่ “ วัดบางแอก “ แห่งนี้คุณประจวบ อายุ 78 ปี ชาวบ้านที่มีพื้นเพ อยู่ในอำเภอสามชุกได้เล่าประวัติความเป็นมา ของวัดบางแอก และพระพุทธรูปศักดิ์องค์นี้ ให้กับกับ “ทีมงาน “ ว่า วัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าอู่ทองปฐมกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา สมัยนั้นเกิดโรคห่าระบาดอย่างหนักมีผู้คนล้มตายจำนวนมาก
พระเจ้าอู่ทองจึงพาบริวารและประชาชนอพยพ ออกจากเมืองหลวงเดินทางด้วยเกวียน พอมาถึง “บ้านทึงแอก “เกวียนได้หักลงเลยพากันหยุดซ่อมแซมและรอเป็นเวลาหลายวัน พระเจ้าอู่ทองสั่งให้สร้างวัดขึ้นในบริเวณนี้ 3 แห่งด้วยกัน คือ วัดบางแอก วัดรอ และวัดบ้านทึง กล่าวกันว่าคราวหนึ่งพระเจ้าอู่ทองสั่งให้บริวารไปขอฟางจากชาวบ้านมาให้วัวกิน แต่ชาวบ้านไม่ให้ ต่อมาได้ส่งบริวารไปขอหนังสำหรับผูกแอกเกวียนชาวบ้านก็ไม่ให้อีก พระเจ้าอู่ทองจึงเรียกชาวบ้านแห่งนี้ว่าพวกบ้านขี้ทึ้ง(บ้านคนขี้เหนียว)เมื่อเวลาเปลี่ยนไปบ้านขี้ทึ้ง ก็เพี้ยนมาเป็น “บ้านทึง”อย่างที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน และทางกรมศิลปกรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแล้ว


คุณยายเพี้ยน อายุ 80 ปี ได้เล่าประการณ์ลี้ลับในเราฟังว่า

--- สมัยตอนเด็กๆ ตอนนั้นบริเวณสถานที่แห่งนี้รกฏัภยังไม่มีถนนหนทาง บ้านเรือนชาวบ้านหนาแน่ เหมือนในปัจจุบันนี้ คนใน อ.สามชุก มักจะอาศัยแม่น้ำท่าจีนใช้เป็นเส้นทางสัญจรไปมาหาสู่กับคนที่อยู่ในตัวจังหวัด ในช่วงนั้นจำได้ว่าเสือกลับได้พาพรรคพวกออกปล้น ที่ตลาดจังหวัดสุพรรณฯ แล้วลงเรือหลบหนีเพื่อจะหนีออกไปทางสิงห์บุรี ระหว่างทางได้แวะมาพักที่วัดแห่งนี้ แล้วได้อธิฐานกับหลวงพ่อในโบสถ์ว่าจะขอปล้นครั้งนี้เป็น ขอเป็นครั้งสุดท้าย เพราะมีเหตุที่ต้องเอาเงินไปซื้อยาให้แม่ที่นอนป่วยอยู่ ขอให้หลวงพ่อเมตตาโจรชั่วที่ทำเพราะความจำเป็น ขอให้ตนเองหนีรอดจากการติดตามของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยเถิดแล้วจะขอเลิก และบวชตลอดชีวิต

หลังจากอธิฐานเสร็จเสือกลับรายนี้ก็เห็น เจ้าหน้าที่ตำรวจ และ กำนัน กำลังพาสมัครพรรคพวกพายเรือตามไล่ล่า ผ่านมา และเมื่อเห็นเรือของเขา ผูกอยู่ริมตลิ่งพวกเขาก็งัดท้ายเรือ พายเข้าฝั่ง ทันที หวังจะทำการล้อมจับตัวให้ได้แต่พอขึ้นมาบนฝั่ง เจ้าหน้าที่ แม้จะค้นหาอย่างไรก็ไม่เจอตัว ทั้งๆที่เสือกลับเองกำลังนั่งพนมมือไหว้ขอพรกับ “ หลวงพ่อ “ ที่อยู่ในโบสถ์แท้ๆ แต่ทำไม พวกเจ้าหน้าที่กลับมองไม่เห็น เสือกลับซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกประหลาด เจ้าหน้าที่เมื่อตามหาเสือกลับไม่พบจึงเดินทางกลับทำให้เสือกลับหนีรอดจากการถูกจับในครั้งนั้นไปได้---

เวลาผ่านไปได้เพียงปีเศษๆเท่านั้นเอง วันนั้นจำได้ว่าขณะที่อยู่บนบ้านฉันได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดติดต่อกัน คุณพอที่อยู่ใต้ถุนบ้านได้รีบวิ่งขึ้นมาดับตะเกียงและบอกให้ลูกๆ นอนอยู่นิ่งๆ สงสัยว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น เพราะเสียงปืนดังมาจากทาง “ วัดบางแอก “   พอรุ่งเช้าชาวบ้านก็โจษขานกันว่า“ ตำรวจได้ยิงเสือกลับตาย “ อยู่ที่ริมตลิ่งท่าน้ำของวัดตั้งแต่เมื่อคืน เหตุเพราะ “ เสือกลับ “ ผิดสัญญาที่ได้ให้ไว้กับ “ หลวงพ่อวัดบางแอก “ว่าจะเลิกเป็น“ โจร “ แล้วจะบวชกลับตัวเป็นคนดี แต่เสือกลับคนนี้ไม่ทำตามสัญญา กับรวบรวมสมัครพรรคพวกไปปล้นเศรษฐีในตัวจังหวัดสุพรรณฯ แต่กลับถูกลูกน้องหักหลัง นำเรื่องที่ “ เสือกลับ “ จะเข้าปล้นไป บออกกำนันเพื่อแลกกับเงิน เมื่อกำนันรู้จึง มีการวางแผนล้อมจับทันที

แต่อย่างไร    ไม่ทราบ “เสือกลับ “ หนีแหกวงล้อมของตำรวจ ออกมาได้ และพายเรื่อหนี มาตามแม่น้ำอีกครั้งแต่เมื่อผ่านวัด “ เสือกลับ “ ตัดสินใจว่าจะไม่เข้ามาพักแต่เหมือนมีอะไร...? ดลใจ ให้ “ เสือกลับ“ พายเรือเข้ามาพัก เพราะฝนกำลังตกหนัก ฟ้าฝ่าตลอดขณะที่พักอยู่บนฝั่ง เจ้าหน้าที่ตามมาทัน เลยขึ้นฝั่งไล่ล่า จนเกิดยิงกันระหว่างตำรวจ กับเสือกลับ ที่ลือกันว่าเขาหายตัวได้ กันอยู่พักใหญ่ ตำรวจก็ไม่กล้าออกไปดูเพราะคิดว่า “ เสือกลับ “มีคาถาอาคมดีจนรุ่งเช้าจึงพบเสือกลับ มานอนตายอยู่ด้านหน้าขององค์พระพุทธรูป ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกจนชาวบ้านพากันเชื่อว่า “ เสือกลับ “ ต้องมาตายเพราะผิดคำสัญญา ในช่วงนั้นเวลาจะมีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงจะมีการท้าสาบานต่อหน้า“ หลวงพ่อบางแอก “

ชาวบ้านในละแวกนี้ได้กระซิบกับ  อีกว่าเมื่อก่อนหน้าที่ทีมงานเซียนจะมาถึง ผู้ใหญ่บ้านรายหนึ่ง ได้เข้ามาเป็นกรรมการ ผู้ใหญ่บ้านรายนี้ มีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริตนำรายได้ไปใช้ ชาวบ้านรู้แต่ก็ไม่รู้จะจัดการอย่างไร จนมีอยู่วันหนึ่งได้มีการจัดงานประจำปีเพื่อสมโภช “ หลวงพ่อ “ ขณะที่ชาวบ้านกำลังร่วมกันจัดทำอาหาร เพื่อทำบุญเลี้ยงพระ “ ผู้ใหญ่บ้าน “ รายนี้ก็กำลังจะเดินเข้ามาร่วมในงานแต่เมื่อเดินเข้ามาในเขตวัดเท่านั่นเอง ขาของผู้ใหญ่ จู่ๆก็ก้าวไม่ออกเหมือนคนไม่มีแรง และหงายหลังล้มลงทั้งยื่น ท่ามกลางสายตายของคนเป็นจำนวนมาก

โดยทุกคนที่เห็นเหตุการณ์เชื่อว่า “ หลวงพ่อ “ คงลงโทษ ฐานเอาเงินวัดไปใช้ทุกวันนี้แม้ “ ผู้ใหญ่บ้าน “รายนี้จะหายจากอาการป่วยเป็นอัมพฤต สามารถเดินได้เกือบปกติ แล้วก็ตาม เขาก็จะไม่กล้าเดินกรายเข้ามาในเขตวัดอีกเลย

สำหรับเรื่องขอโชคของพรนั้น แหล่งข่าวบอกเพิ่มเติมว่า ขอได้เลยหากทำตามสัญญา ก็มักจะประสบความสำเร็จ เกือบทุกประการโดยคนที่มักมีเรื่องทุกร้อน ปัญหาหนี้สิน ปัญหาการหย่าร้าง สามีนอกใจก็มักจะเดินทางมาอธิฐานขอกับท่าน ซึ่งส่วนใหญ่ใครมาขออะไรเราจะไม่ค่อยรู้หลอกจะรู้ก็ตอนที่เขาสำเร็จ ได้ผลแล้ว 


ภาพหลวงพ่อวัดบางเเอก


                                         

           


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น